กระทิง เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ มักอยู่รวมกันเป็นฝูง โดยทั่วไปจะมีขนาดฝูงไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีบางฝูงที่มีสมาชิกอยู่จำนวนมาก กระทิงเป็นสัตว์กินพืช รักสงบ ขี้อาย จ่าฝูงกระทิงจะทำหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยให้กับสมาชิกในฝูง แม้ว่าโดยปกติกระทิงจะไม่ทำร้ายหรือทำอันตรายใคร แต่หากมีศัตรูเข้ามาคุกคาม กระทิงก็จะลุกขึ้นต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเองและครอบครัว กระทิงมีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งทั้งที่ลำตัว ขา และคอ ขาของกระทิงที่แข็งแกร่งช่วยให้กระทิงสามารถพุ่งไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วและสามารถปีนป่ายขึ้นสู่ที่สูงได้ แต่ในทางกลับกันก็กลายเป็นข้อจำกัดทำให้กระทิงไม่สามารถเดินถอยหลังได้ กระทิงมีเขาที่แหลมคมสำหรับใช้ในการต่อสู้ เมื่อจะโจมตีหรือขวิดใส่ศัตรู กระทิงจะพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและก้มหน้าลงเพื่อให้เขานั้นพุ่งไปข้างหน้า จากสถิติพบว่า คนที่ถูกกระทิงทำร้าย มีน้อยกว่า 1 ใน 20 ที่สามารถรอดชีวิตได้ ด้วยเหตุนี้ในหลายวัฒนธรรมจึงเลือกใช้กระทิงเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง มุ่งมั่นและอดทน
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกระทิงที่พบมากที่สุด คือ กระทิงเป็นสัตว์ดุร้ายและไม่ชอบสีแดงเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเห็นอะไรที่เป็นสีแดงก็จะเข้าโจมตี ความเข้าใจผิดนี้สืบเนื่องมาจากกีฬาสู้กระทิงของสเปน ที่มาธาดอร์ถือผ้าสีแดงในการล่อกระทิงให้เข้าไปขวิด ในความเป็นจริง กระทิงตาบอดสี (สีเขียวและสีแดง) สิ่งที่ทำให้กระทิงพุ่งเข้าไปขวิด ไม่ใช่สีของผ้า แต่เป็นเพราะท่าทางโบกสะบัดผ้าที่สร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้กับกระทิง ประกอบกับการนำกระทิงไปทรมานอย่างหนักเป็นเวลา 2 วันก่อนจะปล่อยกระทิงลงสู่สนามต่างหาก ส่วนสาเหตุที่ มาธาดอร์เลือกใช้ผ้าสีแดงก็เป็นเพราะว่า เมื่อมาธาดอร์เอาดาบทิ่มแทงกระทิงจนตายนั้น เลือดที่กระเด็นมาโดนผ้าจะได้มองไม่เห็นชัดเจน ทำให้คนดูไม่รู้สึกถึงความโหดร้ายมากจนเกินไป
ลักษณะเด่นของคนเผ่ากระทิง
คนเผ่ากระทิง มักมีภาพลักษณ์สำหรับ "คนในฝูง" เป็นคนที่อบอุ่น ใจดี พร้อมให้ความช่วยเหลือหรือให้คำปรึกษากับสมาชิกทุกคน ดูแลปกป้องทุกคนด้วยความรักความห่วงใย เอาใจใส่ในทุกรายละเอียดทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ด้วยเหตุนี้คนเผ่ากระทิงจึงมักเป็นเสมือนศูนย์รวมใจของคนในฝูง แต่สำหรับ "คนนอกฝูง" แล้ว คนเผ่ากระทิงอาจไม่ให้ความสนใจเลยแม้แต่น้อย ในสายตาของคนนอกฝูง คนเผ่ากระทิงจึงดูเหมือนเป็นคนหยิ่ง ไม่น่ารัก ไม่สนใจใคร ยิ่งถ้าหากคนนอกฝูงมีท่าทีที่อาจเป็นภัยคุกคามกับคนในฝูงของตัวเอง คนเผ่ากระทิงจะออกโรงปกป้องคนในฝูงด้วยการไล่ขวิดคนนอกฝูงกันเลยทีเดียว
เผ่ากระทิงเป็นหนึ่งในลักษณะของผู้นำที่มีโอกาสประสบความสำเร็จได้เช่นกัน แต่จะมีโอกาสมากน้อยเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับคำจำกัดความของคำว่า “ฝูง” ในความรู้สึกของคนเผ่ากระทิงแต่ละคน ถ้าเป็นกระทิงที่มีฝูงเล็ก ภาพลักษณ์ทั่วไปของคนนั้นก็อาจดูเป็นคนหยิ่ง คนดื้อ หรืออาจขี้เหวี่ยงขี้วีนก็เป็นไปได้ แต่ถ้าเป็นกระทิงที่มีฝูงใหญ่ ภาพลักษณ์ทั่วไปของคนนั้นก็จะดูอบอุ่น เป็นผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะเป็นที่พึ่งของทุกคน เป็นคนที่สมาชิกทุกคนอยู่ด้วยแล้วมีความสุขความสบายใจ เพราะได้รับการดูแลเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ดังนั้นการให้นิยามคำว่า ฝูงของตัวเอง ยิ่งกว้างมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ฝูงในที่นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเฉพาะคนที่เป็นลูกน้องตัวเองเท่านั้น แต่ยังสามารถขยายไปยังเพื่อนร่วมงาน ผู้บริหาร ทุกคนในบริษัท หรืออาจเลยไปถึงซัพพลายเออร์ คู่ค้า ลูกค้าด้วยก็เป็นได้
คนเผ่ากระทิงมักมีการตัดสินใจที่ล่าช้า บ่อยครั้งที่คนเผ่ากระทิงดูเหมือนเป็นคนที่ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง อนุรักษ์นิยม หัวโบราณ เลือกทำแต่แบบเดิมๆ ไม่ยอมเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเผ่ากระทิงไม่ได้อยากต่อต้านการเปลี่ยนแปลงเพราะเหตุผลส่วนตัว แต่เป็นเพราะมัวแต่คิดใคร่ครวญว่าสิ่งที่ตัวเองจะตัดสินใจลงไปนั้น จะส่งผลกระทบในแง่ลบต่อคนที่อยู่ภายใต้การปกครองดูแลหรือไม่อย่างไร และถ้าการเปลี่ยนแปลงหรือเรื่องที่ต้องตัดสินใจนั้น ยังทำให้คนเผ่ากระทิงรู้สึกกลัว กังวล ไม่มั่นใจอยู่ เผ่ากระทิงก็จะยังไม่ยอมตัดสินใจอะไรลงไป หรืออาจตัดสินใจเลือกทำแบบเดิมๆ ซึ่งให้ความมั่นใจได้มากกว่าเพราะรู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว อย่างไรก็ดีแม้ว่าการตัดสินใจที่คำนึงถึงคนที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของตัวเองจะเป็นเรื่องที่ดี และยอมรับได้ถ้าหากว่ามันจะทำให้การตัดสินใจล่าช้าไปบ้าง แต่หากตัดสินใจโดยคำนึงถึงแต่คนในฝูง พยายามต่อสู้เพื่อปกป้องพวกพ้องจนไม่สนใจผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับคนอื่นในสังคม จะถือว่าเป็นจุดอ่อนที่ต้องแก้ไข เผ่ากระทิงจะต้องตระหนักว่า ทุกคนในองค์กรแม้ไม่ได้อยู่ในฝูงเดียวกัน แต่ก็เสมือนเป็นอวัยวะในร่างกายเดียวกัน เมื่อมีอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งเจ็บ ส่วนที่เหลือก็ไม่สบายตัวไปด้วย
หลุมพรางที่เผ่ากระทิงต้องระวัง คือ ด้วยความที่คนเผ่ากระทิงต้องการปกป้องดูแลฝูงของตัวเองอย่างดีที่สุด บางครั้งก็อาจปกป้องดูแลคนในฝูงมากเกินไปจนคนในฝูงเหล่านั้นไม่ยอมโต ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ต้องรอให้เราเป็นคนดูแลอยู่เสมอ ในสายตาคนในฝูงอาจมองและหวังพึ่งพาเราเสมือนเราเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จนทำให้คนเผ่ากระทิงต้องแบกรับภาระหนักไว้คนเดียว เผ่ากระทิงจะต้องตระหนักว่าตัวเองไม่สามารถอยู่ปกป้องคนในฝูงได้ตลอดไป วิธีที่ดีกว่าคือ การทำให้เหล่าลูกกระทิงเติบโตขึ้นจนปกป้องดูแลตัวเองได้ และเมื่อถึงเวลา เหล่าลูกกระทิงนั้นก็จะพร้อมแยกตัวออกไปเป็นฝูงใหม่ของตัวเอง ซึ่งเท่ากับว่าฝูงของเราใหญ่ขึ้นไปอีก แต่ภาระรับผิดชอบของเราจะลดน้อยลง