top of page

คนเก็บตัว : คนเจ้าปัญหาจากเผ่านักธนู


Worker behind computer

ถ้าใครเคยได้ดูการแข่งขันกีฬายิงธนู หรือยิงปืนมาบ้าง ก็จะสังเกตเห็นว่าในกีฬาเหล่านี้ ไม่อนุญาตให้มีกองเชียร์อยู่ตรงไหนของสนามเลย อาจมีผู้ติดตามอยู่ในนั้นบ้าง แต่ต้องไม่มีใครที่ส่งเสียงอะไรออกมาระหว่างการแข่งขัน เพราะไม่ว่าจะเป็นการยิงธนูหรือยิงปืนให้แม่นยำนั้น สมาธิที่จดจ่อไปที่เป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด แค่มีเสียงของตกเบาๆ ก็อาจทำให้นักกีฬาคนนั้นเสียสมาธิและยิงพลาดเป้าไปอย่างน่าเสียดาย


คนเผ่านักธนูส่วนใหญ่ก็เป็นเหมือนนักกีฬาเหล่านี้แหละครับ คนเผ่านี้มักมีความชำนาญพิเศษในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งมักเป็นเรื่องที่ยากและต้องใช้สมาธิสูงในการทำงานนั้นให้สำเร็จ เช่น งานออกแบบ งานเขียนโปรแกรม งานคำนวณขั้นสูง งานวิจัยพัฒนา ฯลฯ บ่อยครั้งที่เมื่อไอเดียโผล่ขึ้นมา ความคิดก็วิ่งไปอย่างรวดเร็วกว่าที่มือจะลงมือทำหรือจดเก็บไว้ได้ทัน ช่วงเวลานั้นเขาจะจำเป็นต้องจดจ่อกับความคิดของเขาอย่างมาก เพราะถ้ามีอะไรมาดึงให้เขาหลุดออกไปจากความคิดตรงนั้นแม้เพียงชั่วขณะเดียว ไอเดียที่อุตส่าห์โผล่มาในหัวก็อาจจะวิ่งหนีหายไปเลยทันที เหมือนนายพรานที่กำลังจะเล็งยิงกระต่ายน้อยที่พึ่งโผล่ออกมาจากรู แล้วมีเพื่อนมาเรียกให้หันไปดูดอกไม้สวยๆ หันกลับมาอีกที กระต่ายก็วิ่งหนีหายไปไกลตามไม่ทันแล้ว


โดยทั่วไปคนเผ่านักธนูจึงมีลักษณะเป็นคนเก็บตัวนิดๆ กันอยู่แล้ว แต่สำหรับบางคนก็อาจต้องการโลกส่วนตัวมากจนเกินไปได้เหมือนกัน คนเผ่านักธนูที่อยู่แต่กับงานของตัวเองจนไม่สนใจโลกภายนอกเลย จะกลายเป็นคนเจ้าปัญหาแบบ #คนเก็บตัว

คนเก็บตัวมักจะชอบหมกตัวอยู่กับโต๊ะทำงานของตัวเอง ไม่สุงสิงพบปะพูดคุยกับคนอื่นเลย พูดเฉพาะเมื่อจำเป็นต้องพูดเท่านั้น บ่อยครั้งที่คนกลุ่มนี้ดูเหมือนไม่ใช่คนมีปัญหาอะไร แต่มักกลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะงานที่ไปกองอยู่ที่เขา จะไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับความคืบหน้าของงานเลย สำหรับงานที่จำเป็นต้องใช้ความร่วมมือจากทุกคน ก็เป็นเรื่องยากเช่นกันที่จะได้รับความร่วมมือจากคนกลุ่มนี้


และหากบังเอิญว่าคุณมีคนกลุ่มนี้เป็นหัวหน้า คุณก็จะต้องทำงานด้วยตัวเองโดยที่ไม่ได้รับทิศทางหรือความคิดเห็นอะไรจากหัวหน้าของคุณเลย


แต่ระวังให้ดี ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เรื่องที่คุณพูดคุยเป็นเรื่องที่คนเหล่านี้เชี่ยวชาญ เขาอาจโผล่โพล่งขึ้นมาและพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้คนในวงสนทนาต้องเจ็บตัวไปตามๆ กันเลยก็ได้

คนเก็บตัวแบบทั่วไป อาจมีสาเหตุมาจากการเป็นคนขี้อาย ไม่กล้าพูดคุยแสดงออก ไม่ถนัดในการเข้าหาผู้คน ส่วนใหญ่มักเป็นคนที่มีทักษะพิเศษและความสนใจเฉพาะด้าน ซึ่งอาจไม่ใช่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ในสังคมเข้าใจ จึงทำให้คนเก็บตัวรู้สึกเป็นคนแปลก (หรือไม่ก็รู้สึกว่าคนอื่นแปลก)


สำหรับคนเก็บตัวบางคน สาเหตุอาจมาจากบาดแผลในหัวใจที่เกิดจากความไว้วางใจในคนใกล้ชิด หรือการถูกปฏิเสธจากสังคมบางอย่าง จึงไม่เปิดใจให้ใครอีก สำหรับคนเก็บตัวประเภทนี้ จะจัดการได้ยากกว่า และอาจต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วย

เพื่อลดปัญหาในการทำงานจากประเด็นเรื่องขาดการสื่อสาร คุณควรพูดคุยกับคนเก็บตัวโดยกำหนดให้เขาต้องแจ้งอัพเดทความคืบหน้าของงานเป็นระยะ การใช้อีเมล์เป็นช่องทางสื่อสารหลักจะช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น


ถ้าคุณต้องการสนิทสนมกับคนเก็บตัว อย่างแรกที่ควรจะทำคือ ใช้เรื่องที่เขาชำนาญหรือชื่นชอบ มาเป็นตัวเปิดประเด็นในการพูดคุย ลองขอความช่วยเหลือจากเขาในเรื่องที่เขาชำนาญ เช่น ถ้าเขาเป็นคนที่เก่งคอมพิวเตอร์มาก ก็อาจขอให้เขาช่วยพาไปเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ก็จะช่วยให้คุณกับเขาเริ่มต้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้

คนกลุ่มนี้มักมีความมุ่งมั่นทุ่มเทให้กับงานที่อยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบของตน และต้องการสมาธิในการทำงานนั้นให้สำเร็จ ดังนั้นหากไม่จำเป็นก็อย่าไปรบกวนเขาในเวลาทำงานจะเป็นการดีที่สุด ในกรณีที่คุณมีลูกน้องเป็นคนเก็บตัว แต่เป็นคนที่มีข้อมูลที่คนอื่นต้องการ คุณจะต้องจัดระเบียบการขอข้อมูลจากคนเก็บตัวให้น้อยคนและน้อยครั้งที่สุด เพื่อไม่ให้คนเก็บตัวเกิดความเบื่อหน่ายที่ถูกขัดจังหวะในการทำงานของตน


การส่งคนเก็บตัวไปอบรมฝึกฝนทักษะเพิ่มเติมก็เป็นความคิดที่ดี แต่ต้องเลือกเรื่องและสื่อสารกับเขาให้เขาเข้าใจว่า เรื่องที่คุณจะส่งเขาไปฝึกอบรมนั้นมันสำคัญกับตัวเขาและองค์กรอย่างไร

การป้องกันไม่ให้สมาชิกในทีมกลายเป็นคนเก็บตัว ต้องเริ่มจากการทำให้ทุกคนในทีมเข้าใจความต่างของแต่ละคน และยอมรับในตัวตนของกันและกัน หาที่ยืนที่ทำให้คนเก็บตัวรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า และอย่าพยายามบีบบังคับให้คนเก็บตัวต้องเข้าร่วมกลุ่มสมาคมกับใคร เพราะหากเขายิ่งสัมผัสได้ว่าคนอื่นมองเขาแบบแปลกแยก จะยิ่งทำให้เขาเป็นคนเก็บตัวมากขึ้นไปอีก อย่าลืมแจ้งให้เขารู้ว่างานของเขามีคุณค่ากับทีมมากขนาดไหน และชมเชยผลงานของเขาอยู่เสมอ

ดู 115 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด
bottom of page